สั่งพิมพ์

สุดยอดฮีโร่กับภารกิจพลีชีพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ

สุดยอดฮีโร่กับภารกิจพลีชีพโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ





http://gulfofmexicooilspillblog.files.wordpress.com/2011/03/5522033110_50c339ee2d.jpg



แต่ในขณะที่การเอาชีวิตรอด คือสิ่งที่ผู้คนที่อยู่ในเมืองฟุกุชิมะต้องทำอย่างเร่งด่วน ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่หวาดกล้วอันตรายใด ๆ ของสารกัมมันตรังสีที่แพร่กระจายไปทั่วบริเวณแม้แต่น้อย พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ในฟุกุชิมะ ท่ามกลางสารกัมมันตรังสีเข้มข้นที่พร้อมจะคร่าชีวิตพวกเขาไปเมื่อไรก็ได้

          และ ผู้คนกลุ่มนี้ ก็คือ เหล่าเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะและผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ รวมทั้งสิ้นกว่า 180 ชีวิต ที่เร่งปฏิบัติภารกิจควบคุมสถานการณ์เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ตลอด 5 วันที่ผ่านมา และสถานการณ์ก็กลับเลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ ยังคงพยายามกันต่อไป ท่ามกลางสารกัมมันตรังสีที่รั่วไหลออกมาในปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบัดนี้ สารกัมมันตรังสีในชั้นบรรยากาศอยู่ในระดับอันตรายมาก จนอาจจะคร่าชีวิตมนุษย์ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเลยทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจหรือหวาดกลัวกับอันตรายเหล่านั้นแต่ อย่างใด เพราะพวกเขาตระหนักดีว่า หากพวกเขาละเลยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังเกิดไฟไหม้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ ในขณะนี้แล้ว มันอาจจะเกิดระเบิดร้ายแรงขึ้น และปล่อยสารกัมมันตรังสีออกสู่บรรยากาศ คร่าชีวิตผู้คนอีกหลายหมื่นหลายแสนคนก็เป็นได้ ดังนั้น การพยายามยับยั้งมันอย่างสุดความสามารถ จึงเป็นสิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก่อน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้และทำให้พวก เขาต้องเสียชีวิตทั้งหมดก็ตาม

หรือถ้าจะมองในแง่ดีที่สุด หากเจ้าหน้าที่ทั้ง 180 คนสามารถกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้นตลอดช่วง 5 วันที่ผ่านมาให้ดีขึ้นได้ และยับยั้งการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีได้อย่างที่คนทั่วโลกหวังให้เป็นได้ ก็ตาม แต่สิ่งที่พวกเขาเอาไปแลกกับความปลอดภัยนี้ ก็ยังคงหมายถึงชีวิตของพวกเขาอยู่ดี เมื่อระหว่างที่พวกเขาปฏิบัติภารกิจอยู่ในขณะนี้ พวกเขายังคงสูดเอาสารกัมมันตรังสีเข้าไปเต็มปอด อีกทั้งยังซึมเข้าสู่ผิวและดวงตาอีกด้วย และแน่นอนว่า การสัมผัสกับสารกัมมันตรังสีอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อาจไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาอย่างทันทีทันใด แต่ในระยะยาวนั้น พวกเขามีความเสี่ยงมากกว่า 70% ที่จะป่วยเป็นมะเร็งในอนาคต!!!

http://www.kathiesworld.com/wp-content/uploads/2011/03/Fukushima-nuclear-plant.jpg

โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้เปิดเผยว่า เขารู้ว่าการปฏิบัติงานครั้ง นี้เสี่ยงมาก แต่เขาก็ไม่กลัวตาย เพราะถึงแม้เขาตาย เขาก็ตายในหน้าที่ ซึ่งในการปฏิบัติงานครั้งนี้ พวกเขาต้องทำงานกันในความมืด มีเพียงไฟฉายที่พอจะช่วยให้เขาทำงานได้สะดวกขึ้นเท่านั้น และระหว่างปฏิบัติงาน เขาก็จะได้ยินเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ จากการที่ก๊าซไฮโดรเจนรั่วออกมาจากเตาปฏิกรณ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนทีมเจ้าหน้าที่เทคนิค หรือที่เรียกว่าทีม ฟุกุชิมะ 50 ก็ต้องหายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ และแบกถังอ๊อกซิเจนหนักอึ้งอยู่บนหลังตลอดเวลา และชุดจัมพ์สูทสีขาวมิดชิดเพื่อป้องกันสารกัมมันตรังสีซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาในการปกป้องภัยพิบัติจากโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์

          เมื่อกล้านำชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงกับอันตรายของสารกัมมันตรังสี เพื่อช่วยชีวิตผู้คนอีกมากมายให้ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทั้ง 180 คนจึงกลายเป็นฮีโร่ผู้กล้าหาญไปอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ซึ่งไม่ใช่แค่พวกเขาจะเป็นฮีโร่ของชาวญี่ปุ่นเท่านั้น พวกเขาได้กลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งโลกไปแล้วในขณะนี้

http://estaticos02.cache.el-mundo.net/elmundo/imagenes/2011/03/17/internacional/1300350013_0.jpg







 




คะแนนเมื่อเร็วๆนี้
  • Sming จิตพิสัย +30 19-3-2011 12:14

TOP

    


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าคนงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟุกุชิมะ หมายเลข 1จำนวน 50 คน ได้ปฏิบัติภารกิจพลีชีพอุทิศตนเพื่อส่วนรวม โดยหนึ่งในคนงานบอกว่าเขายอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น 

ขณะนี้ระดับสารกัมมันตภาพรังสีภายในโรงไฟฟ้าได้ลดลงและอยู่ในระดับที่ไม่ ทำให้เสียชีวิตในทันที ซึ่งคนรายงานหนึ่งบอกว่า เขารู้ชะตากรรมอาจทำให้พวกเขาป่วยในอีกไม่กี่ปีเพราะชุดป้องกันที่พวกเขาสวม ใส่นั้นสามารถป้องกันรังสีได้ในเพียงเล็กน้อย หลังจากที่เพื่อนร่วมงานกว่า 700 คนไ้ด้ถอนตัวออกไปเมื่อพบว่าระดับสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ในระดับอันตราย  ทั้งนี้ รายงานระบุว่าพวกเขาเป็นช่างเทคนิคและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่รู้เรื่องโรง ไฟฟ้าแห่งนี้ดีที่สุดและส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่อาสาเข้าทำงานเสี่ยงภัยแบบ นี้ เพราะคิดว่าพวกเขามีลูกกันหมดแล้ว แต่คนหนุ่มอาจเสี่ยงต่อการเป็นหมันได้ถ้าได้รับสารกัมมันตรังสี ซึ่งคนงานในโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะที่ทำงานเสี่ยงกลุ่มนี้มีทั้งหมด 200 คน พวกเขาจะผลัดเปลี่ยนกันทีมละ 50 คน ทำงาน 4 กะ เพื่อกอบกู้ระบบหล่อเย็นให้กลับมาใช้งานได้ในสภาวะคับขันเช่นนี้


    เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของญี่ปุ่นนำมาเผยแพร่ พร้อมกับสัมภาษณ์สมาชิกในครอบครัวของพวกเขา หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของคนงานกลุ่มนี้ บอกว่าสามีของเธอที่ทำงานอยู่ ในโรงไฟฟ้า ยังคงทำต่อไปทั้งที่รู้ดีว่ากำลังได้รับสารกัมมันตรังสีมากขึ้นเรื่อย ๆนอกจากนี้ ลูกสาวของคนงานรายหนึ่ง บอกว่าพ่อของเธอใกล้เกษียณแล้ว จึงอาสาเข้าไปทำงานปฏิบัติภารกิจเสี่ยง ตัวเธอได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อกลับออกมาอย่างปลอดภัย

TOP

http://hilight.kapook.com/img_cms2/news3/Untitled-6_1.jpg

http://www.tlcthai.com/backoffice/upload_images/news/24032011/s2.jpg

                 สื่อต่างชาติรายงาน 50 ฮีโร่ กู้นิวเคลียร์ญี่ปุ่น ตายแล้ว 5 บาดเจ็บ 15 หลังปฏิบัติงานมา 13 วัน ล่าสุดหาม 3 คนงานเข้าร.พ.ด่วน


       เดลี่เมล์ ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายของกลุ่ม 50 คนงานกอบกู้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ชุดแรกที่อาสาเสี่ยงตายในการเข้าไปควบคุมการ รั่วไหลของสารกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ไดอิจิ

รายงานข่าวและภาพเกี่ยวกับการทำงานของ 50 คนงานได้แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและความยากลำบากในการเสี่ยงอันตรายในการ ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีเพียงแสงสว่างจากไฟฉายเท่านั้น รายงานระบุว่าส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างและระดับกลางที่เสียสละ พยายามกู้โรงไฟฟ้าดังกล่าวแต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ส่งผลให้มีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีออกสู่อากาศและมหาสมุทรแปซิฟิกอย่าง ต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าคนงานกลุ่มนี้อย่างน้อย 5 รายได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากได้รับกัมมันตรังสีในระดับเข้มข้นมากเกินไปและอีก 15 ราย ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานจนทำให้ทางการญี่ปุ่นและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องจะได้ส่งคนงานกลุ่มใหม่เข้าไปเสริมกำลังอีกกว่า 150 คน ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานล่าสุดว่าได้นำตัว 3 คนงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นเข้าร.พ. หลังโดนรังสีระหว่างการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัย


http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2011/03/article-1367929-0B3E5A9D00000578-463_634x407.jpg

TOP


TOP


TOP