ถ้าเราเป็นคนนึงที่จะเริ่มกินวิตามิน ซี เพื่อที่จะเพิ่มภูมิต้านทานต่างๆให้แก่ร่างกายของเรา สิ่งต่อมาที่เราอาจจะต้องคิดคือ เราควรกินวิตามิน ซี ตอนไหนดีหละ เพื่อที่วิตามิน ซี ที่เราทานเข้าไปจะเกิดประโยชน์ต่อร่างการของเราสูงสุด ในบางครั้งคนขายจะแนะนำให้กินตอนก่อนนอน บ้างก็ว่าต้องกินหลังอาหารหลักทุกมื้อ แล้วจริงๆแล้วเราควรจะกิน วิตามิน ซี ตอนไหนกันแน่หละ เราลองมาดูรายละเอียดของการทานวิตามิน ซี กัน
.เราควรกินวิตามิน ซี ตอนไหน
เราควรทานวิตามิน ซี หลังอาหารเช้า เพราะช่วงเวลาที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดีอยู่ช่วงเช้าของแต่ละวัน เวลาประมาณ 9-10 โมงเช้าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารต่างๆได้ดีที่สุดช่วงเวลานี้
ควรทานวิตามิน ซี หลังอาหารเพราะวิตามิน ซี ที่ร่างกายดึงไปใช้ได้นั้นจะต้องมีตัวนำพา เช่น อาหาร ผักใบเขียว ผลไม้ต่างๆที่ให้วิตามิน ซี สูง ซึ่งถ้าทานวิตามิน ซี ตอนท้องว่าง ร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม สุดท้ายน้ำที่เราดื่มเข้าไปก็จะไปละลายวิตามิน ซี และสุดท้ายวิตามิน ซี ก็จะโดนขับออกเป็นปัสสาวะ
ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน ซี ตอนท้องว่าง เพราะวิตามิน ซี มีคุณสมบัติเป็นกรดซึ่งคงไม่ค่อยดีแน่ถ้าเรากินตอนท้องว่าง และไม่ควรกินวิตามิน ซี ก่อนนอน ในบางการค้นค้าพบว่าวิตามิน ซี อาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งจะทำให้การนอนหลับยากขึ้น ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การกินวิตามิน ซี เม็ด 1,000 มิลลิกรัม ทุกวันมีผลดีหรือไม่
เราสามารถที่จะทานวิตามิน ซี ได้ทุกวันเพราะวิตามิน ซี สามารถขับออกจากร่างกายได้ง่าย การทานวิตามิน ซี จะทำให้ผิวดีขึ้นกับภูมิคุ้มกันดีขึ้นด้วย ในวิตามินซีนอกจากจะมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยในเรื่องชลอความแก่ ป้องกันการเป็นมะเร็ง ภูมิแพ้ หวัดแล้ว ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย และไม่ตกค้างในร่างกายเพราะวิตามิน ซี ส่วนเกินจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะในที่สุด การทานวิตามิน ซี เป็นประจำจะมีส่วนช่วยทำให้ไม่เป็นภูมิแพ้อากาศอีกเลย
ปริมาณวิตามิน ซี ที่รางกายต้องการขั้นต่ำต่อวันคือ 60 มิลลิกรัม แพทย์แนะนำให้กินวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อประโยชน์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ร่างกายคนเราสามารถดูดซึมวิตามิน ซี ได้ทีละน้อยๆเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกไป วิตามินที่ละลายในน้ำเช่น วิตามิน ซี และวิตามินกลุ่มบีทุกชนิด จะไม่สามารถอยู่ในร่างกายได้นาน ร่างกายจะขับออกทุกๆ 6 ชม. เวลากินวิตามิน ซี แบบเม็ดจึงควรจะกินแค่ครั้งละเม็ดก็พอ การกินวิตามิน ซี วันละครั้งในปริมาณเยอะๆจะได้ประโยชน์น้อยกว่า การกินวิตามิน ซี ครั้งละน้อยๆ แต่กินบ่อยๆ ในเวลาร่างกายปกติการกินวันวิตามิน ซี วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็นก็เพียงพอแล้ว วิตามินที่กินเข้าไปจะได้ไม่ถูกขับออกมาให้เสียของเปล่าๆ แต่ในช่วงที่เป็นหวัดควรกินวันละ 3,000 มิลลิกรัม แบ่งเป็น 3-6 เวลา ตลอดทั้งวัน จะลดความรุนแรงของหวัดได้มากที่สุด 85% ในเวลาปกติถ้าจะกินวิตามิน ซี วันละ 2 มื้อ ควรกินพร้อมอาหารเช้าและเย็น
CR. http://mblog.manager.co.th/birdmaru/th-118888/
วิตามินรวมวันละเม็ดมีคุณค่ามากกว่าที่คุณคิด
วิตามินเป็นสารอินทรีย์ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ต้องได้รับจากอาหาร ร่างกายเราต้องการวิตามินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น วิตามินและเกลือแร่มีส่วนสำคัญในการควบคุมการทำงาน การเจริญเติบโต ของเซลล์ วิตามินและเกลือแร่ได้จากอาหารเป็นส่วนใหญ่เช่น ข้าว ผลไม้ ผักต่างๆมีเพียงวิตามิน D,K ที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เอง
วิตามิน
วิตามินมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น การเจริญเติบโต ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และต่อต้านเชื้อโรค วิตามินยังมีบทบาทในการเปลี่ยนอาหารไปเป็นพลังงานโดยขบวนการทางเคมี วิตามินแบ่งออกเป็น
วิตามินที่ละลายในน้ำได้แก่ Vitamin C, biotin and the seven B vitamins — thiamin (B-1), riboflavin (B-2), niacin (B-3), วิตามินpantothenic acid (B-5), pyridoxine (B-6), folic acid (B-9) and cobalamin (B-12)
วิตามินที่ละลายในไขมันได้แก่ vitamin A, D, E or K วิตามินเหล่านี้จะเก็บในไขมัน หากรับมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดพิษโดยเฉพาะวิตามิน A,D ส่วนวิตามิน E,K มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นการซื้อวิตามินรับประทานต้องดูว่ามีวิตามินเหล่านี้หรือไม่
วิตามินบางตัวเป็น antioxidants ซึ่งป้องกันเซลล์มิให้ถูกทำลาย ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็งโดย อนุมูลอิสระ free radical สมัยก่อนเชื่อว่าหากรับประทานอาหารได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริม แต่ปัจจุบันได้มีรายงานว่าการรับวิตามินเกินความต้องการของร่างกาย อาจจะทำให้ป้องกันโรคได้ เช่นโรคหัวใจ แต่บางท่านเชื่อว่าวิตามิน และเกลือแร่บางส่วนอาจถูกทำลายจากการปรุงอาหาร การถนอมอาหาร แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการรับประทานวิตามินเกินค่าที่กำหนดโดย Recommended Daily Allowance (RDA) ควรปรึกษาแพทย์
คนกลุ่มใดควรได้วิตามินเสริม
เด็กและหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการสารอาหารเพิ่ม
วัยรุ่นที่คุมอาหาร
คนจรจัด คนจนที่รายได้ไม่พอใช้
ผู้ป่วยที่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ควรได้รับวิตามินเนื่องจากสุรา และบุหรี่จะทำลายวิตามิน
ผู้ป่วยเรื้อรัง
ผู้ที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหาร
กินเจ
กรดแอมิโนจำเป็น (essential amino acid) หมายถึง กรดแอมิโน (amino acid) ซึ่งเป็นองต์ประกอบในโมเลกุลของโปรตีน เป็นกรดแอมิโนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารการ ขาดกรดแอมิโนที่จำเป็นชนิดใดชนิดหนึ่งมีผลทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซม โปรตีนส่วนที่สึกหรอได้ หรือการทำงานของเอนไซม์ในเมแทบอลิซึมไม่ปกติซึ่งกรด แอมิโนจะไม่สะสมในร่างกายเหมือนคาร์โบไฮเดรทต และ ไขมัน ดังนั้นจึงต้องรับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพดีทุกวันเพื่อให้ร่างกายได้รับกรด แอมิโนจำเป็นอย่างเพียงพอ แตกต่างจากกรดแอมิโนที่ไม่จำเป็น (non essential amino acid) ซึ่งเป็นกรดแอมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้จากสารอาหารอื่น
ที่มา: Food Network Solution
ยินดีต้อนรับสู่ SMING.ORG (http://sming.org/) | Powered by Discuz! 6.0.0 |